ประวัติพี่ป้อม  

สัญญา  คานชัย  “ป้อม”

นักวิ่งเทรลสายลุย มืออาชีพ อัลตร้าเทรล “ถ้าซ้อมน้อย เวลาที่ใช้ในการวิ่งเข้าสู่เส้นชัยจะมาก ถ้าซ้อมมาก เวลาที่ใช้วิ่งเข้าสู่เส้นชัยจะน้อย”

           นักวิ่งวัย 48 ปี เป็นชาวจังหวัดหนองคาย จากจุดเริ่มต้นที่เป็นคนชอบเตะฟุตบอลกับเพื่อนฝูง เมื่อย้ายถิ่นฐานจากหนองคายมาอยู่เมืองกรุง ก็มีโอกาสเข้าสู่ชมรมวิ่งสนามศุภชลาศัย เริ่มต้นจากวิ่งระยะสั้นๆ ไม่กี่กิโลเมตร เริ่มลงแข่งวิ่งระยะไกลมินิหรือควอเตอร์มาราธอน มุ่งสู่ฮาล์ฟมาราธอน และฟูลมาราธอนตามลำดับ หลังจากนั้นยังพัฒนาตัวเองไปจนถึงขั้นอัลตรามาราธอน

               หลังจากนั้น คุณสัญญาก็ไม่เคยห่างเหินจากการวิ่ง รวมทั้งไม่เคยละทิ้งชีวิตที่ผูกติดอยู่กับการฝึกซ้อม และต่อมาคุณสัญญายังรู้ว่ายังมีการวิ่งอีกอย่าง คือ วิ่งเทรล ดังนั้นนอกจากลงแข่งวิ่งบนถนน เทรลรันนิ่งคืออีกสนามของ คุณสัญญา 

             การวิ่งเทรลเป้นการวิ่งที่อิสระ เหมือนกลับไปเป็นเด็ก ไปเดินป่าไปเดินดูธรรมชาติฝึกร่างกายให้ผ่อนหนักผ่อนเบา เลยมาเป็นนักวิ่งเทรลเต็มตัว 6-7 ปี  ต้องมีเป้าหมายและเวลา ซ้อมให้เต็มที่ วิ่งให้สุดๆ ซ้อมยังไง ซ้อมมากเเค่ไหนถึงจะได้รางวัล การวิ่งเทรลต้องมีการวิ่งได้ทุกรูปแบบ วิ่งเจอเเดด เจอฝน เจอหิน  วิ่งระยะทาง 100 โล 200 โล  ให้ทุกคนซ้อมให้หลากหลายรูปแบบ ฝึกฝนให้มีเป้าหมาย  

   การซ้อมของคุณสัญญาได้ออกแบบการซ้อมวิ่งของตัวเองที่มีรูปแบบไม่เหมือนใคร

          การซ้อมนั้นไม่ได้หรูหราและมีราคา แต่ใช้ของที่หาได้ตามธรรมชาติตามข้างทาง หรือของรอบข้าง เป็นนักวิ่งอีกคนหนึ่งที่เป็นตัวอย่างในเรื่องของการพยายามขยันหมั่นเพียรไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการซ้อมที่มีราคาสูงก็สามารถเป็นที่หนึ่งได้

          ตามปรกติในแต่ละวันของคุณสัญญา จะซ้อมวิ่งระยะทางรวมกัน ไม่ต่ำกว่า 20-30 กิโลเมตร บางครั้งวิ่งติดต่อกัน 50 กิโลเมตรไปตามท้องถนน วิ่งไปบนทางเท้า  อาจแบ่งรอบวิ่งเป็นช่วงเช้า กลางวัน เย็น บางครั้งก็วิ่งเช้า 20 กิโลเมตร กลางวัน 20 กิโลเมตร เย็น 20 กิโลเมตร ตามความต้องการ หรือบางครั้งซ้อมวันละ 4 เวลา ฝึกวิ่งเร็วบ้าง ช้าบ้าง สลับกัน แต่ส่วนใหญ่จะเน้นระยะทางมากกว่าความเร็ววิ่งหลายรูปแบบ พยายามซ้อมอย่างสม่ำเสมอและซ้อมวิ่งให้เร็วด้วย  ดูร่างกายตัวเองและอย่าให้บาดเจ็บ  เมื่อต้องการซ้อมวิ่งเทรลแล้วกรุงเทพ ฯ ไม่มีภูเขาดังนั้น ไฮไลต์ในการซ้อมของสัญญาคือ การวิ่งลากยางรถยนต์ โดยผูกเชือกจากยางรถยนต์เข้ากับเอว สลับกับวิ่งใช้ไม้ดันยางรถยนต์ไปข้างหน้า เมื่อร่างกายเข้าที่เข้าทางก็วิ่งลากและดันยางรถยนต์ไปพร้อมๆ กัน สนามแข่งขันเทรลรันนิ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นการวิ่งตามชายป่า รวมถึงภูเขาที่มีความลาดชัน บ่อยครั้งต้องออกแรงปีนบ่าย วิ่งกระโดดหรือก้าวข้ามก้อนหิน